รัชกาลที่ 10 ทรงตัดสินพระทัยให้พระโอรสทั้งสี่พระองค์เสด็จกลับไทย เหตุใดจึงตัดสินใจแปลกๆ เช่นนี้ ?

พระโอรสทั้งสี่กับในหลวงรัชกาลที่สิบ ท่านชายทั้งสี่สวมเสื้อกรักพ่อท่านอ้นวัชรเรศรวิวัชรวงศ์โอรสองค์ที่สองของรัชกาลที่สิบกับอดีตหม่อมยุวะธิดาออกงานการกุศลโดยท่านอ้น ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนพระองค์ว่า การเล็กเล็ก ยังดำเนินการต่อไปด้วยความมุ่งมั่น สองปีที่ผ่านมานี้ ได้พบเพื่อนที่ดีดีมากมายภูมิใจที่เพื่อนเพื่อนมาร่วมกันทำประโยชน์ให้สังคมและเยาวชนไทยถ้าเราช่วยกันสามัคคีกันไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันท่านชายทั้งสี่ได้ย้ายไปประทับอยู่ที่อเมริกาจนถึงปัจจุบัน โดยใช้นามสกุลตระกูลวิวัชรวงศ์ถึงแม้จะอยู่ต่างแดนแต่ท่านชายทั้งสี่ก็มีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรีอย่างมาก หม่อมเจ้าจุฑาวัชรมหิดลหรือท่านอ้วนประสูติวันที่ยี่สิบเก้าสิงหาคมสองพันห้าร้อยยี่สิบสองศึกษาต่อด้านการบินและนิติศาสตร์หม่อมเจ้าจุฑาเรศรมหิดลหรือท่านอ้น ประสูติวันที่ยี่สิบเจ็ดพฤษภาคมสองพันห้าร้อยยี่สิบสี่ศึกษาด้านนิติศาสตร์หม่อมเจ้าจักรีวัชรมหิดลหรือท่านอ่องประสูติยี่สิบหกกุมภาพันธ์สองพันห้าร้อยยี่สิบหกศึกษาด้านการแพทย์ วัชรวีมหิดลหรือท่านอินทร์ประสูติสิบสี่มิถุนายนสองพันห้าร้อยยี่สิบแปด ศึกษาด้านการบริหารธุรกิจและนิติศาสตร์และมีพระธิดาองค์สุดท้องอีกพระองค์นั่นก็คือพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าศิริวรรณนวลีนารีรัตน์พระอิสริยยศในขณะนั้น ซึ่งประวัติโดยย่อของสี่เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือพระราชนัดดาฝ่ายชายในรัชกาลที่เก้า ได้แก่จุฑาวัชรวิวัชรวงศ์เดิมหม่อมเจ้าจุฑาวัชรมหิดลเกิดเมื่อวันที่ยี่สิบเก้าสิงหาคมสองพันห้าร้อยยี่สิบสอง มารดาสุจารินีวิวัชรวงศ์อดีตพันตรีหญิงหม่อมสุจารินีมหิดล ณ อยุธยา ลำดับที่สองวัชรกรีษอนวิวัชรวงศ์ เดิมหม่อมเจ้าวัชรกรีษอนมหิดล วัชรกรีษอนวิวัชรวงศ์ เดิมหม่อมเจ้าวัชรกรีษอนมหิดล เกิดวันที่ยี่สิบเจ็ดพฤษภาคม ในปีสองพันห้าร้อยยี่สิบสี่ มารดาสุจารินีวิวัชรวงศ์ อดีตพันตรีหญิงหม่อมสุจารินีมหิดล ณ อยุธยา ปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์การเมือง ปริญญาโทด้านสาขานิติศาสตร์ลำดับที่สามจักรีวัชรวิวัชรวงศ์ เดิมหม่อมเจ้าจักรีวัชรมหิดลเกิดวันที่ยี่สิบหกกุมภาพันธ์สองพันห้าร้อยยี่สิบหกมารดาสุจารินีวิวัชรวงศ์อดีตพันตรีหญิงหม่อมสุจารินีมหิดล ณ อยุธยา ปริญญาตรีสาขาจิตตชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยไมอามี่รัฐฟลอริดาปริญญาโทนาวิทยาลัยการแพทย์ลำดับที่สี่วัชรวีวัชรวงศ์ เดิมหม่อมเจ้าวัชรวีมหิดลเกิดเมื่อวันที่สิบสี่มิถุนายนสองพันห้าร้อยยี่สิบแปดมารดาสุจารินีวิวัชรวงศ์อดีตพันตรีหญิงหม่อมสุจารินีมหิดล ณ อยุธยา ปริญญาตรีสองสาขาคือธุรกิจต่างประเทศและการคลัง ปริญญาโทสาขาด้านการบริหารธุรกิจ ปริญญาเอกสาขาด้านนิติศาสตร์ อยู่ในวิทยาลัยกฎหมาย ท่านชายทั้งสี่ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่สิบสวมเสื้อรักพ่อออกงานการกุศล หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีหม่อมสุจาริณีมหิดลในขณะนั้นพาพระโอรสธิดาไปประทับยังสหราชอาณาจักร โดยภายหลังพระบาทสมเด็จพระจิรากรเจ้าอยู่หัวขณะทรงดำรงยศที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารทรงรับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณวรีนารีรัตน์ราชกัญญา ขณะนั้นทรงดำรงพระยศที่หม่อมเจ้าบุตรน้ำเพชรมหิดลพระธิดาองค์เล็กมาประทับในไทย วันที่สิบสามมกราคมพุทธศักราชสองพันห้าร้อยสี่สิบมีหนังสือผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักร เพื่อแจ้งต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าท่านชายทั้งสี่ได้ถูกถอดออกจากสถานะพระราชวงศ์และไม่มีสิทธิ์ในการใช้ฐานันดรหม่อมเจ้าอีกต่อไปทั้งนี้ได้เปลี่ยนให้ไปใช้นามสกุลพระราชทานวิวัชรวงศ์แทน แต่อย่างไรก็ตามไม่ปรากฏประกาศการถอดฐานันดรศักดิ์ในราชกิจจานุเบกษาที่โดยปกติแล้วการลาออกและการถอดถอนจากฐานันดรศักดิ์ของเจ้านายชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไปจะต้องลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา หญิงสุจารินีวิวัชรวงศ์หรือเดิมคือหม่อมสุจารินีมหิดล ณ อยุธยา เคยเป็นหม่อมในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร และเป็นอดีตนักแสดงชาวไทยที่มีชื่อแรกเกิดว่ายุวธิดาผลประเสริฐและเคยใช้ชื่อในการแสดงว่ายุวธิดาสุรัสวดีมีผลงานการแสดงภาพยนตร์และละครจำนวนหนึ่ง ช่วงปีสองพันห้าร้อยยี่สิบถึงสองพันห้าร้อยยี่สิบสองแล้วออกจากวงการบันเทิงปัจจุบันสุจารินีและพระราชโอรสทั้งสี่องค์ ปัจจุบันพำนักอยู่สหรัฐอเมริกาและในเดือนกุมภาพันธ์สองพันห้าร้อยสามสิบเจ็ด ทั้งสองได้อภิเษกสมรสโดยมีพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จพระราชดำเนินมา แต่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวงมิได้เสด็จพระราชดำเนินด้วย หลักปี อภิเษกสมรสจึงเปลี่ยนชื่อเป็นหม่อมสุจารินีมหิดล ณ อยุธยา ทั้งยังได้รับการแต่งตั้งให้มียศเป็นพันตรีหญิงแห่งกองทัพบกไทย หลังหม่อมสุจารินีไปอยู่ต่างประเทศเธอและพระโอรสทั้งสี่องค์ถูกถอดจากฐานันดรศักดิ์และตำแหน่งและใช้นามสกุลพระราชทานว่าวิวัชรวงศ์ ซึ่งในขณะที่หม่อมเจ้าบุตรน้ำเพชรพระธิดาองค์เล็กได้กลับสู่ประเทศไทยโดยอยู่ในการดูแลของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารปัจจุบันคือสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณวรีนารีรัตน์ราชกัญญา ส่วนสุจารินีและพระโอรสทั้งสี่ ก็ได้พำนักในสหรัฐจนถึงปัจจุบัน เรื่องราวความเป็นไปทุกด้านของราชสำนักไทย ปัจจุบันเป็นที่สนใจของประชาชนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นข่าวทางการหรือไม่เป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งข่าวอ้างอิงตามข้อเท็จจริง หรือเพียงข่าวลือ และเรื่องที่บอกเล่าเก้าสิบต่อต่อกันมาหากแต่มีเรื่องหนึ่งอันเป็นเรื่องที่ถูกปิดจากการพูดคุยและการถกเถียงในทางสาธารณะโดยเฉพาะเรื่องราวส่วนพระองค์ที่อาจกระทบต่อพระเกียรติ ถึงแม้จะพยายามปิดขนาดไหนประชาชนยังหยุดที่จะนึกถึงไม่ได้โดยที่ไม่มีอะไรกั้นความคิดของทุกคนได้ และสิ่งนั่นก็คืออดีตหม่อมเจ้าชายทั้งสี่ จุฑาวัชรวัชร จักรีวัชร และวัชรวีวิวัชรวงศ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว กับอดีตหม่อมสุจารินีวิวัชรวงศ์ ที่เรื่องราวและความเป็นไปเกี่ยวกับบ้านนี้เป็นที่น่าสนใจมากขึ้นตั้งแต่ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนที่เคารพและชื่นชอบในราชสำนักไทยจำนวนไม่น้อยที่ยังมีความชื่นชมในตัวของคุณทั้งสี่หากแต่ช่วงหลังหลังมานี้เหตุใดเกิดกระแสที่ดูว่าจะตีกลับเสียเอง หลายคนอาจทราบดีในช่วงปีสองพันห้าร้อยยี่สิบสองถึงสองพันห้าร้อยสามสิบเก้าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์สยามกุฎราชกุมารกับหม่อมสุจารินี มีช่วงเวลาแบบครอบครัวอันหวานชื่นและอบอุ่นกับพระโอรสทั้งสี่พระองค์และพระธิดาอีกหนึ่งพระองค์ หลังจากมีกระแสข่าวลือเรื่องของความขัดแย้งภายในครอบครัว เมื่อหม่อมสุจารินีได้พาท่านชายทั้งสี่ ไปประทับในประเทศอังกฤษ และจากนั้นได้มีพระราชบันทึกผ่านทางเอกอัครราชทูต ให้ใช้นามสกุลวิวัชรวงศ์ อันเป็นนามสกุลพระราช เป็นการถอดฐานอันดรศักดิ์หม่อมเจ้าออกจากพฤตินัย ถึงแม้ว่าไม่เคยมีประกาศใดใดลงในราชกิจจานุเบกษา อดีตท่านชายทั้งสี่และมารดาได้พำนักในอังกฤษก่อนจะย้ายไปสหรัฐอเมริกาซึ่งได้ดำรงชีวิตอย่างสามัญชนเต็มตัวจากที่เคยมีข้าราชบริพารที่คอยถวายงานต้องพึ่งพาตนเอง ดำรงเลี้ยงชีพด้วยตนเองเรื่อยมาเวลาผ่านไปเกือบสามสิบปีเรื่องราวของคุณทั้งสี่ได้อยู่ในวงสนทนาของผู้คนอยู่ตลอด จากข่าวลือที่กระพือทุกรูปแบบ ตื้นลึกหนาบางที่แท้จริงเป็นอย่างไร คนภายนอกไม่มีใครทราบได้ ในหมู่คุณทั้งสี่ที่ได้ดำรงชีพอย่างปุถุชนที่เพียบพร้อมด้วยการศึกษาวัยวุฒิและคุณวุฒิมีคุณอ้วนจุฑาวัชระ และคุณอินทร์วัชรวีเท่านั้นที่ดูเหมือนว่าปิดตัวเองจากโลกสาธารณะคนภายนอกจึงแทบจะไม่ได้ข่าวคราวของทั้งสองพระองค์จึงมีเพียงแต่คุณอ้นวัชระเรศ และคุณอ๋องจักรีวัชระซึ่งปัจจุบันเป็นนายแพทย์ให้ความรู้ด้านต่างต่างเกี่ยวกับการแพทย์ทางสื่อสังคมออนไลน์เป็นประจำ ซึ่งชาวไทยที่ได้ติดตามสื่อสังคมออนไลน์ของคุณหมอจะทราบดีว่ามีบทบาทส่วนใหญ่ ในทางวิชาการเท่านั้นสำหรับคุณอ้นวัชระเรซรโดยจะเป็นคนเดียวที่ออกสื่ออย่างโดดเด่นที่สุดโดยมีส่วนร่วมในสังคมที่เกี่ยวเนื่องกับประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งนอกจากจะมีอาชีพทนายความ ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมงานต่างต่างกับชุมชนไทยในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการก่อตั้งกองทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกาและยังมีหลายงานบุญงานกุศลที่ได้ไปร่วมในประเทศต่างต่างทั้งอังกฤษและอินเดียเป็นต้น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ขณะที่ทั่วทุกมุมโลกรวมทั้งประเทศไทย กำลังเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา คุณอ้นจึงถือโอกาสนี้แสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้แก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ดูท่าจะได้รับเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดีในตอนแรกที่ทำให้เห็นว่าในฐานะบุคคลสาธารณะคนหนึ่งก็ได้ออกมามีส่วนร่วมอะไรในสังคมบ้าง แต่ในขณะเดียวกันเริ่มมีกระแสด้านลบก่นด่าอย่างไม่มีไม่มีปี่ไม่มีขุยเข้ามาจากที่มีกระแสที่มีด้านบวกตลอดมา ก็เริ่มกลายเป็นกระแสที่ดีกลับในมุมมองของประชาชนจำนวนไม่น้อยในยุคปัจจุบันซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับบ้านนี้ ถึงแม้บ้านวิวัชรวงศ์กลายเป็นลูกไม้ไกลต้นไปแล้ว ที่แม้นสายยารักษ์แห่งครอบครัว อาจถูกตัดขาดไป แต่ไม่สามารถปฏิเสธความเป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ได้ จึงไม่รอดที่จะโดนครหา ในภาวะความเป็นนิยมของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเริ่มเสื่อมถอยปลาข้องเดียวกันตัวหนึ่งเน่าก็ปล่อยผ่าให้เหม็นไปด้วยฉันใดบ้านวิวัชรวงศ์จึงไม่รอดที่จะโดนร่างแหติดไปด้วยฉันนั้น โดยเฉพาะคนที่มีบทบาทโดดเด่นมากที่สุดในบ้านอย่างคุณอ้นวัชระเรซอร์ที่ตอนนี้น่าจะกำลังเป็นที่สนใจในหมู่ของประชาชนจากการที่ถูกมองว่าพรีเซนต์ตัวเองมากขึ้นและออกตัวแรงมากขึ้น จนถูกมองว่าอาจจะหัดสนับสนุนจากประชาชนมากขึ้นที่สามารถเป็นแรงผลักดันโอกาสที่จะกลับแผ่นดินเกิดได้มากขึ้นหรือแม้กระทั่งโอกาสที่จะกลับไปสู่จุดเดิมหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่บ้านนี้ถูกมองและตั้งความหวังจากกรมที่เคารพในสถาบันกษัตริย์ไทยว่าจะมีโอกาสได้เห็นท่านชายทั้งสี่ กลับมาช่วยงานแบ่งเบาพระรัชภาระถึงแม้ในความเป็นจริงนั้น ณ ตอนนี้โอกาสกลับบ้านเกิดคือแทบเป็นศูนย์ ในขณะที่ทัศนคติด้านลบของประชาชนที่มีมากขึ้นต่อองค์พระมหากษัตริย์ที่ทำให้ภาพลักษณ์อีกด้านไม่เป็นที่น่าพิสมัยมาโดยตลอดในฐานะพระราชโอรส จึงโดนกระแสลบตามไปด้วยซึ่งเชื่อว่าทั้งสี่พี่น้องต่างตระหนักในเรื่องนี้ดีในเมื่อคุณอ้วนจุฑาวัชระในฐานพระราชโอรสพระองค์ใหญ่อาจฟาดตัวเองออกจากบทบาทสาธารณะแล้ว จึงจำเป็นต้องจับจ้องไปที่ขุนอ้นวัชรเกสรในฐานะพระราชโอรสพระองค์ที่สองที่พาตัวเองมาอยู่ในวงการสังคมตั้งแต่แรกอยู่แล้วพร้อมกับคุณหมออ่องนายแพทย์จักรีวัชรถึงแม้จะไปทางสายวิชาการเสียมากกว่า บานวิวัชรวงศ์จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาภาพลักษณ์ของสถาบันหรือไม่ หรือสิ่งที่กระทำอยู่จะช่วยสนับสนุนสถาบันหรือสนับสนุนตนเองเพื่อไปถึงฝั่งฝันมากกว่ากันเพื่อจะไปเป็นดาวโดดเด่นบนฟากฟ้าใจไปไขว่คว้าเอามาเหมือนใจฝัน จะไปให้ถึงปลายทางในวันนั้น จะเป็นคนดังที่อยู่ในแสงไฟ